อันโตเนลลีกลายเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดอันดับสามที่ขึ้นโพเดียมใน F1

การแข่งขันแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2025 สิ้นสุดลงภายใต้เงื่อนไข Safety Car ซึ่งเป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่น่าจดจำและสถิติที่น่าประทับใจมากมาย จอร์จ รัสเซลล์ คว้าชัยชนะกรังด์ปรีซ์ครั้งที่ 4 ในอาชีพการงานของเขา ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 5 ของเมอร์เซเดสในมอนทรีออล แต่เป็นครั้งแรกที่นักแข่งที่ไม่ใช่ลูอิส แฮมิลตันเป็นผู้ชนะ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัสเซลล์เป็นนักแข่งคนที่สี่ที่คว้าชัยชนะในฤดูกาลนี้ และเขาสามารถขึ้นโพเดียมได้มากกว่าฤดูกาลที่แล้วทั้งหมด (4 ครั้ง) ถึง 5 ครั้งแล้วในฤดูกาลนี้ แม็กซ์ แฟร์สตัปเพน เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 ยุติสถิติการคว้าชัยชนะแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ 3 สมัยติดต่อกันของเขา แม้ว่าเขาจะลดช่องว่างคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกกับออสการ์ ปิแอสตรีลงไปได้ 43 คะแนนก็ตาม การจบอันดับหนึ่ง-สองของรัสเซลล์และแฟร์สตัปเพนเป็นครั้งที่สาม แต่เป็นครั้งแรกที่รัสเซลล์เป็นผู้ชนะ คิมี่ อันโตเนลลี วัย 18 ปี 294 วัน ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าอันดับ 3 ให้กับเมอร์เซเดส กลายเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสามที่ขึ้นโพเดียม และเป็นนักแข่งชาวอิตาลีคนแรกที่ขึ้นโพเดียมตั้งแต่ปี 2009 ผลงานของเขาทำให้เขาได้รับรางวัล 'Driver of the Day' ออสการ์ ปิแอสตรี จากแม็คลาเรน จบอันดับ 4 ยุติสถิติการขึ้นโพเดียมอันน่าประทับใจ 8 ครั้งติดต่อกัน ในขณะที่การชนกับเพื่อนร่วมทีม แลนโด นอร์ริส ซ้ำรอยเหตุการณ์ในปี 2011 ระหว่างแฮมิลตันและบัตตัน การออกจากการแข่งขันของนอร์ริสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วที่ออสเตรีย ชาร์ลส์ เลอแคลร์ จากเฟอร์รารี่ คว้าอันดับ 5 ทำผลงานได้ดีกว่าเพื่อนร่วมทีม ลูอิส แฮมิลตัน ซึ่งจบอันดับ 6 อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่สามารถขึ้นโพเดียมได้ใน 10 สนามแรกของฤดูกาลเป็นครั้งแรกในอาชีพ F1 19 ฤดูกาลของเขา ผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ อันดับ 7, นิโก ฮุลเคนแบร์ก จบใน 8 อันดับแรกเป็นครั้งที่สามในฤดูกาลนี้, เอสเตบัน โอคอน อันดับ 9 ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของฮาสในมอนทรีออลในการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ครั้งที่ 200 ของทีม และคาร์ลอส ซายนซ์ อันดับ 10 ให้กับวิลเลียมส์ ซึ่งทำคะแนนได้ใน 5 จาก 6 สนามหลังสุด